วงเงินที่จะได้รับอนุมัติ

วงเงินที่จะได้รับอนุมัติ

• มีรายได้จากแหล่งต่างๆ  ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน หรือ 180,000 ต่อปี โดยต้องแสดงหลักฐานที่แน่ชัดเกี่ยวกับแหล่งที่มาของรายได้
• เป็นผู้มีรายได้หรือเคยมีรายได้ที่มาจากการทำงานของตนเอง โดยพิจารณาจากกระแสเงินสดหมุนเวียนในบัญชีเงินฝาก ซึ่งฝากไว้กับสถาบันการเงินที่สามารถรับฝากเงินจากประชาชนได้ตามกฎหมาย ย้อนหลังเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน โดยอย่างน้อยต้องมีกระแสเงินสดเข้าเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน และผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นผู้มีฐานะทางการเงินเพียงพอสำหรับการชำระเงินตามบัตรเครดิตได้
• มีเงินฝากเป็นหลักประกันเต็มวงเงินของบัตรเครดิตที่อนุมัติ
• มีเงินฝากประจำกับธนาคารไม่น้อยกว่า 500,000 บาท เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
• มีเงินฝากออมทรัพย์ลงทุนในตราสารหนี้ หรือลงทุนในกองทุนรวม อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือรวมกันไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาท เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
• วงเงินที่อนุมัติได้ ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ไม่เกิน 5  เท่าของรายได้เฉลี่ยในแต่ละเดือน

Read More

การนำบัตรไปใช้

การนำบัตรไปใช้

เป็นบัตรที่สามารถพกพาได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องพกเงินสด หากต้องการชะระสินค้าด้วยบัตรเครดิตก็ต้องหาร้านค้าหรือสถานบริการไหนที่ติดเครื่องหมายของบัตรเครดิตประเภทเดียวกับที่เรามีอยู่เราก็สามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการแทนเงินสดได้

เมื่อพนักงานรูดบัตรชำระค่าสินค้าแล้วพนักงานจะนำslipมาให้เซ็นชื่อ ตรวจสอบจำนวนเงินให้ถูกต้องก่อนเซ็นชื่อบน Sales Slip ซึ่งร้านค้าจะเก็บไว้เป็นหลักฐานการรับชำระ และให้สำเนา Sales Slip อีกฉบับแก่ลูกค้า อย่าเซ็นชื่อลงในใบบันทึกรายการที่ยังมิได้เขียนจำนวนเงิน ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดเพื่อให้ปลอดภัย เนื่องจากกังวลว่าจะมีบุคคลอื่นนำบัตรของตนเองไปใช้และหลอกเลียนแบบลายเซ็นข้างหลังบัตร หรือลืมไม่ได้เซ็นหลังบัตรในทันที ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดและอันตรายอย่างมาก

การใช้ออนไลน์

ลูกค้าจำเป็นต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของธนาคารผู้ออกบัตร เพื่อใช้ Verified by Visa (VBV), Master Card Secure Code (MCSC) และ JCB J/Secure การชำระเงินผ่านบัตรเครดิตที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่สูงขึ้น และสามารถลดความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ต

คำแนะนำในการใช้บัตรเครดิต

• เมื่อได้รับบัตรเครดิตแล้ว ต้องอ่านข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บัตรให้เข้าใจก่อนแจ้งเปิดใช้บัตรเสมอ เพราะอาจมีเงื่อนไขสำคัญ เช่น การยินยอมให้สถาบันการเงินหักเงินจากบัญชีเงินฝากของผู้ถือบัตรที่มีอยู่กับสถาบันการเงินนั้น มาชำระหนี้ของผู้ถือบัตรได้ทันที ซึ่งในกรณีนี้หากคุณเป็นหนี้บัตรเครดิตที่ค้างชำระ สถาบันการเงินก็มีสิทธิที่จะหักเงินฝากของคุณโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า
• ลงลายมือชื่อเจ้าของบัตรทันทีที่ได้รับบัตรใหม่
• จดรายละเอียดต่าง ๆ ของบัตร เช่น หมายเลขบัตร วงเงิน ภาระหนี้ที่มีอยู่ วันครบกำหนดชำระเงิน เพื่อวางแผนการใช้บัตรเครดิตและการชำระหนี้ให้ตรงเวลา และจดจำหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ออกบัตร เพื่อสามารถติดต่อได้ทันทีในกรณีบัตร สูญหาย ถูกขโมย หรือสอบถามข้อสงสัย ตลอดจนเมื่อมีปัญหาจากการใช้บัตร
• กำหนดรหัสถอนเงินให้ยากต่อการสุ่มเดา
• ควรให้บัตรอยู่ในสายตาตลอดเวลาเมื่อมีการชำระเงินให้แก่ร้านค้า เพื่อป้องกันการถูกนำบัตรไปคัดลอกข้อมูลด้วยเครื่อง Skimmer แล้วทำบัตรปลอมนำไปใช้ในอนาคต หรือป้องกันการแอบจดเลขที่บัตรเครดิต วันหมดอายุของบัตร และรหัส CVV (หมายเลข 3 หลัก ด้านหลังบัตร)
• การซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตควรพิจารณาเรื่องความปลอดภัยของทั้งร้านค้าออนไลน์และผู้ให้บริการชำระเงิน ร้านค้าออนไลน์ที่เชื่อถือได้จะได้รับใบรับรองดิจิตอล (Digital Certificate) ซึ่งส่วนใหญ่จะมีระบบความปลอดภัยของข้อมูลโดยการเข้ารหัสก่อนส่งทุกครั้ง โดยมีเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยของการส่งผ่านข้อมูลแบบ SSL (Secure Socket Layer) ซึ่งแสดงว่าเว็บไซต์นี้ได้รับการรับรองความปลอดภัยในการส่งผ่านข้อมูลระหว่างกัน หรือร้านค้าออนไลน์บางแห่งอาจมีการใช้ระบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) ด้วย

Read More

การชำระเงิน

การชำระเงิน

      กำหนดเวลาการชำระหนี้บัตรเครดิตจะอยู่ในใบแจ้งหนี้ที่ทางธนาคารส่งให้ผู้ถือบัตร หากไม่ได้รับใบแจ้งหนี้ดังกล่าว ควรติดต่อธนาคารและถามถึงกำหนดเวลาการชำระหนี้

      ปัจจุบันธนาคารได้พัฒนาระบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการสมัครใช้บริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ โดยลูกค้าสามารถสมัครใช้บริการได้ที่บริษัทผู้รับเงินและสาขาของธนาคารทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสมัครผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคาร

       ซึ่งบริการหักเงินจากบัญชีอัตโนมัติ หรือ Direct Debit ใช้สำหรับการทำธุรกรรม อย่างเช่น ชำระค่าบัตรเครดิตต่างๆ , ค่าซื้อกองทุนและเงินลงทุน , ค่าสาธารณูปโภค, ค่าสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น Direct Debit ผู้รับชำระเงินและผู้จ่ายเงินต้องทำข้อตกลงล่วงหน้า ก่อนใช้บริการกับธนาคารที่ตนมีบัญชีอยู่เมื่อถึงกำหนดเวลาเรียกเก็บเงิน ผู้รับชำระเงินจะส่งค่าสั่งเรียกเก็บเงินไปยังธนาคาร ธนาคารจะทำการหักเงินจากบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีกระแสรายวันของผู้จ่ายเงินและนำเงินเข้าบัญชีผู้รับชำระเงินภายในธนาคารเดียวกัน

ผู้ถือบัตรมีตัวเลือกหลากหลายในการชำระหนี้บัตรเครดิต 

• สามารถชะรำเงินได้ที่สาขาของสถาบันผู้ออกบัตรเครดิต 
• จุดบริการรับชำระเงินที่เป็นตัวแทนรับชำระ เช่น สาขาธนาคารอื่น Pay@Post เคาน์เตอร์เซอร์วิส
• ช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร เช่น เครื่องเอทีเอ็ม อินเทอร์เน็ต 

          ผู้ถือบัตรต้องชำระหนี้ขั้นต่ำในแต่ละงวดไม่น้อยกว่า 10 % ของยอดคงค้างทั้งสิ้น ทั้งนี้ การชำระเงินในแต่ละช่องทางอาจมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป เช่น ค่าธรรมเนียม จำนวนเงินสูงสุดที่รับชำระ การชำระหนี้เพียง 10% ของยอดคงค้างทั้งสิ้นจะเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ควรพยายามชำระหนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการชำระหนี้ขั้นต่ำทุกงวดจะทำให้มีภาระดอกเบี้ยสูงและเป็นหนี้ในระยะเวลายาวนาน

Read More

ผู้ให้บริการบัตรเครดิตในไทย

ผู้ให้บริการบัตรเครดิตในไทย

ธนาคารซิตี้แบงก์

กรุงศรีอยุธยา

ธนาคารกรุงเทพ

ธนาคารกรุงไทย

ธนาคารธนชาติ

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารกสิกรไทย

Read More

ข้อดี-ข้อเสียของการใช้บัตรเครดิต

ข้อดี-ข้อเสียของการใช้บัตรเครดิต

ข้อดี

•  ใช้แทนเงินสดในการชำระค่าสินค้าและบริการ โดยมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยประมาณ 45-55 วันนับตั้งแต่วันใช้จ่ายจนถึงวันครบกำหนดชำระจริง
• ถ้าจำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉิน สามารถใช้บัตรเครดิตถอนเงินสดจากเครื่อง ATM มาใช้ล่วงหน้า แต่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้ในอัตราที่ค่อนข้างสูง
• บางบัตรสามารถใช้ผ่อนชำระสินค้า หรือบริการที่จ่ายโดยบัตรเครดิตได้ โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราต่ำ หรืออาจไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเลย เช่น ผ่อน 0%
• สามารถเลือกชำระคืนขั้นต่ำ ได้คือ 10% ของยอดคงค้างในแต่ละงวด (หรือไม่ต่ำกว่า 500 หรือ 1,000 บาท)
• ได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมจากสถาบันการเงินที่ออกบัตรในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ได้รับสิทธิซื้อสินค้าในราคาพิเศษ
• ได้รับความคุ้มครองด้านประกันภัยโดยไม่ต้องซื้อกรมธรรม์  ได้รับความคุ้มครองด้านประกันภัยโดยไม่ต้องซื้อกรมธรรม์ ได้รับของกำนัลสะสมแต้ม หรือส่วนคืนเป็นเงินสดเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด เป็นต้น

ข้อเสีย

• ถ้าผู้ใช้ถือบัตรจ่าย อย่างไม่ระมัดระวัง มีการใช้จ่ายเกินตัวมากเกินไปจนไม่สามารถชำระคืน  หรือไม่มีวินัยในการชำระคืน จะถูกธนาคารเรียกเก็บเบี้ยปรับ และดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่น
• หากใช้ หรือเก็บบัตรเครดิตอย่างไม่ระมัดระวังเพียงพออาจเป็นช่องทางให้กลุ่มมิจฉาชีพ (หรือคนใกล้ตัว) แอบนำไปใช้ในทางที่ผิด หรือใช้เพื่อการทุจริตได้

Read More

วิธีการสมัครบัตรเครดิตให้ผ่าน!!

วิธีการสมัครบัตรเครดิตให้ผ่าน!!

1. ประวัติการงเงินต้องขาวสะอาด มีความน่าเชื่อถือ
สถาบันการเงินจะตรวจสอบประวัติทางการเงินของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนบ้าน รถ หรืออื่นๆ กับศูนย์เครดิตแห่งชาติ หรือเรียกว่า "เครดิตบูโร"

Read More

บัตรเครดิต ใช้ยังไงให้คุ้มค่า

การใช้บัตรเครดิตให้คุ้มค่า

ทุกวันนี้การใช้งานบัตรเครดิตกลายเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของคนไทยทั่วไปแลว้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื้อผู้ประกอบการธนาคารและสถาบันที่ออกบัตรเครดิตต่างดึงดูดใจลูกค้าด้วยโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆมากมาย จนทำให้จำนวนผู้ใช้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนี่คือเทรนด์ของคนยุคใหม่ ความสะดวกสะบาย ทันสมัย และเป็น ปัจจัยห้าที่แค่ “รูดปรื๊ด” ก็เนรมิตฝันให้เป็นจริงได้สารพัด เราควรรู้วิธีการใช้งานบัตรเครดิตที่ถูกต้องและเกิดประโยขน์สูงสุดดังนี้

Read More